06/04/2021

ยุโรปตะวันตก Spain France และ Italy

เมื่อนึกถึง “ยุโรป” หลายคนคงคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากแน่ๆ ในการไปเที่ยวแต่ละครั้ง หรือต้องใช้เวลานานแค่ไหนนะ ต้องลางานเพื่อไปเที่ยวหลายวันรึเปล่า หรือคุณอาจจะไม่รู้เลยว่าควรจะเลือกเส้นทางไหนดี การท่องเที่ยวยุโรป แบ่งออกมาก็จะเป็นยุโรปตะวันตก และยุโรปตะวันออก ซึ่งเส้นทางยอดฮิตในยุโรปตะวันตก ส่วนมากที่นิยมกันจะเป็นเมืองใหญ่ๆในแต่ละประเทศ เช่น สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี

ยุโรปตะวันตก Spain France และ Italy

บาร์เซโลน่า (Barcelona), ประเทศสเปน

เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) เมืองใหญ่อันดับ 2 ของสเปน เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถานที่ที่มีจุดเด่นด้านการตกแต่ง สวนสาธารณะปาร์ค กูเอล (Parque Guell) ซึ่งเป็นผลงานของอันตอนี เกาดี้ (Antoni Gaudi) ศิลปินผู้มีอิทธิพลต่องานศิลปะ ในนี้เราสามารถเดินเล่นเพลิดเพลินภายในสวนซึ่งประดับตกแต่งลวดลายด้วยเครื่องกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชม มหาวิหารซากราด้า ฟามีเลีย หรือ The Sagrada Familia มหาวิหารนี้อยู่คู่ชาวบาร์เซโลนามากว่า 136 ปี นับตั้งแต่เริ่มวางศิลาฤกษ์ในปี 1882 เลยทีเดียว ซึ่งมีความหมายว่า ครอบครัวพระเยซู หรือ เป็นที่รู้จักในนามโบสถ์ที่สร้างมา 136 ปีแล้ว ไม่แล้วเสร็จ เป็นโบสถ์ที่ออกแบบตกแต่งที่แปลกตา และการแกะสลักเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ที่งดงามมากที่หนึ่ง รับรองได้ความรู้กลับไปเพรียบ

วาเลนเซีย ประเทศสเปน (Valencia ,Spain)

เมืองวาเลนเซีย เป็นเมื่อที่สามารถศึกษาชม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอเชียโนกราฟิก (Oceanographic Valencia) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ซึ่งเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการล้ำสมัย และมีสิ่งมีชีวิตทางทะเลมากกว่า 500 ชนิด นอกจากจะได้เห็นวาฬเบลูกา ฉลาม วอลรัส เพนกวิน และสัตว์อื่นๆ อีกหลายร้อยสายพันธุ์แล้ว การได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมความบันเทิงที่ใได้เรียนรู้และสัมผัสกับสัตว์ต่างๆ ในแบบที่ไม่เคยมาก่อน ก็เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลย

เมืองแห่งศิลปะ และวิทยาศาสตร์ (City of Arts and Sciences) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และ ทันสมัยที่สุดที่ในเมืองวาเลนเซีย ทางด้านสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ได้รับการออกแบบโดย Santiago Calatrava และ Felix Candela

นอกจากนี้แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีก เช่น หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ (Tower of Serranos) ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง และยังถือว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองที่ดีที่สุดอีกด้วย มหาวิหารซานตามาเรียแห่งวาเลนเซีย (Cathedral de Santa Maria de Valencia) ถูกสร้างขึ้นในสไตล์ผสมผสานของแนวกอธิค นีโอคลาสสิก และ บาร็อค หอคอย Torres de Quart ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสองประตูของกำแพงเมืองโบราณของเมืองวาเลนเซียแห่งนี้

อิบิซ่า ประเทศสเปน (Ibiza ,Spain)
เมืองอิบิซ่า เมืองชายฝั่งท่าเรือ บรรยากาศบริเวณท่าเรือสวยงาม Dalt Vila UNESCO site ป้อมปราการที่สูงเก่าแก่ที่สุดของเมืองอิบิซ่า ซึ่งสร้างขึ้นโดย Charles V ในศตวรรษที่ 16 และยังมี วิหาร The Cathedral of Our Lady of the Snows โบสถ์ใหญ่ของเมืองที่เป็นผสมผสานของสถาปัตยกรรมกอทิก และสถาปัตยกรรมบาโรก

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านคาเฟ่ ให้เลือกแวะดื่ม และ ชิม ได้ตามต้องการ หรือเลือกเดินเล่นช้อบปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า Shopping Centre in Ibiza ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมมากมายให้เลือกช้อปปิ้งกันได้อย่างจุใจ

โพรวองซ์, ประเทศฝรั่งเศส ( Provence, France)

เมืองเอ็กซ์ (Aix) เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ในเรื่องของทุ่งลาเวนเดอร์ และศูนย์แสดงศิลปะชื่อดัง อย่าง Caumont Centre d’Art ซึ่งเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการศิลปะรวมไปถึงคอนเสิร์ต และการแสดงดนตรีต่างๆ ซึ่งการชมผลงานศิลปะ และความงามของสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจ หรือจะเดินเล่นบน ถนนมิราโบ หรือ Cours Mirabeau ซึ่งเป็นถนนที่มีความสวยงามอีกหนึ่งแห่งของฝรั่งเศส และ ยังได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

ทุ่งลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองโพรวองซ์ ทุ่งดอกไม้สีม่วงที่ผลิบานสะพรั่งสุดลูกหูลูกตา และส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ และเราได้เดินเล่นเพลิดเพลิน ถ่ายภาพทุ่งลาเวนเดอร์ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ในแหล่งผลิตเลย ไม่ว่าจะเป็นครีมอาบน้ำ โลชั่น ลิปสติก เทียนหอม ก็มีให้เลือกช้อปกันแบบจุใจ

นีซ ประเทศฝรั่งเศส ( Nice, France)

เมืองนีซ โบสถ์คาทอลิก (Cathedrale de Nice) มหาวิหารแห่งนี้ เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกประจำมณฑลนีซ ถือเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมืองนีซเลยก็ว่าได้ เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปยุคกลางที่มีความสวยงามสะดุดตา สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 13 เพื่ออุทิศให้แก่แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ และนักบุญเรปารัตแห่งนีซ ซึ่งภายในวิหารประกอบด้วยโบสถ์น้อยจำนวน 10 หอ โดยแต่ละหอสร้างอุทิศให้นักบุญต่างๆ

ความงามของ ย่านเมืองเก่านีซ (Old Town) ชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารสไตล์อิตาลี สัมผัสถนนสายเล็กๆ และบรรยากาศโดยรอบที่รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านบูทีค ให้เลือกซื้อของฝาก หรือจะเลือกเก็บภาพของเมืองได้อย่างเต็มที่

เมืองมอนติคาร์โล (Monte Carlo) ชม สนามแข่งรถฟอร์มูลาวัน (Monaco Street Circuit) สนามแข่งรถที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ที่นี่ไม่ได้ถูกสร้างมาสำหรับแข่งรถโดยเฉพาะนะ จะเป็นเพียงถนนในเมืองที่ใช้สัญจรทั่วไป แต่ถูกนำมาใช้เป็นลานประลองความเร็วด้วย

ความหรูหราอลังการ ต้องที่นี่ คาสิโน มอนติ คาร์โล (Casino Monte-Carlo) สร้างขึ้นในปี 1856 ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Charles Garnier ด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค มีงานแกะสลัก งานหินอ่อน ห้องโถงสีทอง แถมยังเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อีกด้วยนะ หรือจะเยี่ยมชม โบสถ์โมนาโก (Monaco Cathedral) โบสถ์นิกายโรมันคาทอลิกขนาดใหญ่ประจำชาติ และประจำราชวงศ์โมนาโก โดยใช้เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา รวมถึงงานเลี้ยงต่างๆ มากมาย เดินชม และเก็บภาพความสวยงามของโบถส์ได้เลย

ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี (Florence, Italy)

เยี่ยมชม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก นั่นคือ หอเอนเมืองปิซา (Leaning Tower of Pisa) สร้างด้วยหินอ่อน สูง 181 ฟุต มี 8 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 176 ปี และบริเวณใกล้เคียงยังสามารถเดินชมความงดงามของ มหาวิหารแห่งปิซา (Piazza dei Miracoli) สร้างอยู่ควบคู่ไปกับหอเอนปิซา ซึ่งเป็นที่เก็บรักษางานศิลปะยุคกลางที่สำคัญ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาอย่างสูงของอิตาลีอีกด้วย และยังสามารถเดิน ชมหอศีลจุ่ม (Pisa Baptistry) หรือ หอล้างบาป ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับผู้จะเข้ารีตเรียนรู้เรื่องศาสนาก่อนจะรับศีลจุ่ม และเป็นที่ทำพิธีต่างๆ

ย่านจัตุรัส Knight’s Square ชมความสวยงามของ โบสถ์ Santa Maria della Spina ซึ่งด้านหน้าของโบสถ์จะเป็นสีขาวที่ตกแต่งได้อย่างประณีต จนได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่มีหน้าโบสถ์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมโกธิคยุคศตวรรษที่ 13 ตัวโบสถ์นั้นจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศดีอย่าบอกใครเลย

โรม ประเทศอิตาลี (Rome ,Italy)

ความยิ่งใหญ่ของ โรมันฟอรัม (Roman Forum) ซึ่งอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของชุมชน การเมือง ศาสนา การค้า และการปกครองอันยิ่งใหญ่ของกรุงโรม และสิ่งที่พลาดไม่ได้คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกอย่างนึง นั่นก็คือ โคลอสเซี่ยม (Colosseum) สนามกีฬายุคโบราณที่สามารถจุคนได้ถึง 50,000 คนซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ของเมืองนี้เลยทีเดียว

ความสวยงามของ บันไดสเปน (Spanish Steps) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบันไดที่กว้าง และ ยาวที่สุดในทวีปยุโรป และการถ่ายภาพกับ น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ซึ่งเป็นจุด check in สุดฮิตของกรุงโรม เป็นที่ที่ใครๆจะต้องมา ซึ่งสถานที่นี้คือ ลานน้ำพุและอนุสรณ์สถาน ที่จัดได้ว่าสวยงาม และ มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หรือจะเดินช้อบปิ้งสินค้าแบรนด์เนมมากมาย หรือจะเลือกแค่เดินเก็บภาพ บรรยากาศของเมืองก็ฟินแล้ว

Copyright © 2022 Prompt Cruise All rights reserved.
Loading...
ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)