09/06/2021

ล่องเรือสำราญ กับเส้นทาง เซี่ยงไฮ้ – ญี่ปุ่น

เซี่ยงไฮ้ – ญี่ปุ่น

เรือสำราญลำใหม่ ลำใหญ่ที่สุดของโลกในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นที่จะพูดถึงเรือ Wonder of the Seas ที่จะเริ่มล่องฤดูกาลแรกที่เซี่ยงไฮ้ ใกล้ๆเรานี่เอง ไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงยุโรปเราก็สามารถสัมผัส เรือสำราญสุดอลังการที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลย ออกเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ ไปญี่ปุ่น มีนาคม 2565 นี้

Shanghai (Baoshan), China

เป่าชาน หรือเดิมชื่อว่า หย่งชาง เป็นนครระดับจังหวัดทางตะวันตกของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เป่าชานเป็นเขตเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในยูนนานตะวันตกรองจากต้าหลี่ ต้องไม่พลาดnaturalparks เที่ยวชมอนุสาวรีย์ และเข้าชมพิพิธภัณฑ์

Fukuoka, Japan

ฟุกุโอกะ (Fukuoka) เป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดใน ภูมิภาคคิวชู มีเมืองฟุกุโอกะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของคิวชูเลย เพราะมีสนามบินฟุกุโอกะอยู่ใกล้ตัวเมือง และที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องของอร่อยด้วย ที่นี่เต็มไปด้วยช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่และอาหารท้องถิ่นรสเลิศมากมาย เช่น ทงคตสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) หม้อไฟมตสึนาเบะ ไข่ปลาเมนไทโกะ และหม้อไฟไก่มิซุทากิ เป็นต้น

1. ศาลเจ้าดาไซฟุ – Dazaifu Tenmagu Shrine เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในเมืองดาไซฟุ เมืองเงียบๆ เล็กๆ ที่อยู่ใกล้กับเมืองฟูกุโอกะ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาตร์ จึงทำให้เป็นที่นิยมดึงดูดผู้คนที่มาเยี่ยมชมและขอพร รวมถึงนักเรียน นักศึกษา ที่มักมาขอพรให้ประสบความสำเร็จในการสอบ

2. ยูฟุอิน – Yufuin เป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีออนเซนตากอากาศเล็กๆที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากเมืองหนึ่งของเกาะคิวชู ตั้งอยู่ในหุบเขาริมแม่น้ำ มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะมีทั้งดอกซากุระบนต้นไม้ และดอกเรปที่พื้นด้านล่าง พร้อมกับแม่น้ำ และภูเขา มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายแห่ง ร้านค้า ร้านอาหารที่ให้บรรยากาศสบายๆ มีวิวทิวทัศน์ที่เป็นยอดเขา 2 ยอดของเทือกเขายูฟุ เป็นที่นิยมในการแวะมาเดินชมเมืองซักครึ่งวัน หรือหนึ่งวัน ถือเป็นเมืองเล็กๆที่น่ารักของ ฟุกุโอกะ ที่เป็นที่น่าจับตามองของนักท่องเที่ยว ที่จะมาสัมผัสบรรยากาศ วัฒนธรรม อารยธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ

3. เบบปุ – Beppu การท่องเที่ยวเมือง Beppu มักจะเที่ยวคู่กับเมือง Yufuin ทั้งสองเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องออนเซนเหมือนกัน เบบปุมีชื่อเสียงเรื่องบ่อน้ำร้อน และ ออนเซน สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง Beppu จะเป็นทัวร์บ่อนรกทั้ง 8 ในแต่ละบ่อจะมีสีของน้ำและอุณหภูมิที่แตกต่างกันออกไป เช่นบ่อสีแดง สีฟ้า สีขาว บ่อโคลน ฯลฯ 6 บ่อจะอยู่ติดกันหมด สามารถเดินถึงกันได้ง่ายๆ ส่วนอีก 2 บ่อจะอยู่ห่างไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยจะมีรถบัสให้บริการที่วิ่งไปลงที่ด้านหน้าของบ่อทั้ง 2 นี้เลย ซึ่งแต่ละบ่อ จะมีความพิเศษจะแตกต่างกันไป นอกจากออนเซนแล้ว เมือง Beppu ยังมีการอบด้วยทรายร้อน และไอน้ำ เชื่อกันว่าการแช่ออนเซน ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง คลายการเมื่อยล้า

Kobe, Japan

ปัจจุบันเมืองโกเบเป็นเมืองที่มีประชากรอันดับ 5 ของประเทศญี่ปุ่น และมากกว่านั้นตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันเมืองนี้ก็เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2ได้มีการเปิดประเทศ และทำการค้าขายกับชาวตะวันตก ชาวจีน และอีกหลากหลากเชื้อชาติได้เดินทางมาที่นี่ จึงทำให้เมืองโกเบเป็นเมืองที่มีการรวมตัวของหลากหลายวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ซึ่งส่งผลให้มีสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวต่างชาติเยอะพอสมควรเลยค่ะเพื่อนๆ แน่นอนว่าทุกอย่างผสมผสานได้อย่างลงตัว จนเป็นเมืองโกเบในปัจจุบันนี้

อีกอย่างหนึ่งคือ เมืองโกเบตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งและภูเขาเป็นเมืองที่แคบแต่มียาว ที่พิเศษคือเมืองนี้มีการวางผังเมืองเอาไว้ได้สุดยอด เพราะว่าเส้นทางที่ยาวระนาบไปกับชายฝั่งของเมืองนี้เขาจะใช้รถไฟในการเดินทาง 1. ซันโนะมิยะ – ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเมืองโกเบ ซันโนะมิยะ (Sannomiya) เป็นศูนย์กลางการเที่ยวในโกเบ บรรยากาศของเมืองที่แตกต่างกันระหว่างทิศเหนือ (ฝั่งภูเขา) และทิศใต้ (ฝั่งทะเล) ของสถานีซันโนะมิยะเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งครับ ทิศเหนือของสถานีมีร้านอาหารมากมาย ร้านที่ขายเนื้อวัวโกเบกิวก็เยอะ มีศาลเจ้าอิคุตะที่ศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรักด้วยนะ ที่เที่ยวเด่นๆ ของฝั่งนี้ก็ต้องอาคารสไตล์ตะวันตกที่เรียกว่าอิจินคังบนเนินคิตาโนะซากะ ถ้าออกไปทางทิศใต้ก็จะมีถนนช้อปปิ้งอันดับหนึ่งในโกเบ ซันโนะมิยะเซ็นเตอร์ไก (Sunnomiya Center Gai) ร้านค้าสองข้างทางบนถนนที่ทอดยาว 600 เมตรจากสถานีซันโนะมิยะไปจนถึงสถานีโมโตมาจิ หากเดินต่อไปทางฝั่งทะเลอีกหน่อย ก็จะเจอกับคิวเคียวริวจิ ย่านร้านค้าแบรนด์เนม และย่านเบย์ สถานีซันโนะมิยะอยู่ใจกลางย่านซันโนะมิยะ เป็นสถานีเทอร์มินอลที่มีรถไฟหลายสายมาจอดทั้งของ JR และฮันคิว เดินทางมาจากโอซาก้าและเกียวโตได้สะดวก ให้เราเริ่มต้นท่องเที่ยวโกเบจากที่นี่กันเลย!

2. เบย์ – Port Tower, Meriken Park โกเบ พอร์ต ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) หอคอยสีแดงดึงดูดสายตาริมอ่าวโกเบในย่านเบย์ นี่คือแลนด์มาร์กของเมืองโกเบเลยครับ ด้านบนเป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นเมืองโกเบ ภูเขา ทะเลได้พร้อมกัน เมริเคน พาร์ค (Meriken Park) เป็นสวนสาธารณะติดทะเลขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆ โกเบ พอร์ต ทาวเวอร์ มาถ่ายรูปคู่กับประติมากรรมสวยๆ แล้วก็ไปนั่งพักผ่อนชมวิวในคาเฟ่ได้

Kyoto (Osaka), Japan

โอซากะ เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสามนครเคฮันชิง ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ในเขตจังหวัดโอซากะ เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่มีสถานะเป็นนครโดยข้อบัญญัติรัฐบาลญี่ปุ่น

1. ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ปราสาทโอซาก้าสามารถเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของเมืองโอซาก้าเชียวค่ะ ที่สำคัญยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกต่างหากคิดดูว่าต้องสำคัญขนาดไหน ร้อยทั้งร้อยมั่นใจว่าถ้ามาโอซาก้าต้องได้มาเยือนปราสาทแห่งนี้กันแน่ๆ เพราะตัวปราสาทเองก็มีความงดงามยิ่งใหญ่อลังการอีกทั้งมีอายุหลายร้อยปี เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1583 แค่สิ่งปลูกสร้างของที่นี่ว่าแจ่มแล้ว สวนรอบๆนี่ก็ดังไม่ใช่เล่นๆค่ะ ยิ่งในฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายเดือนมีนาคมนี่ถูกยกให้เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลย เพราะรอบๆตัวปราสาทจะรายล้อมด้วยสวนที่มีต้นซากุระหลายร้อยต้น เวลาบานสะพรั่งพร้อมๆกันคิดดูจะสวยขนาดไหน

2. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านโดทงบุริถูกยกให้เป็นสวรรค์ของนักช็อปปิ้งตัวยง เพราะเป็นย่านดาวน์ทาวน์ขนาดใหญ่ของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และแหล่งบันเทิงอื่นๆมากมาย มาที่ย่านนี้รับรองว่าทั้งอิ่มอร่อย มือที่เต็มไปด้วยของ แถมยังเพลินได้เต็มพิกัดไม่มีเบื่อ แต่ที่ต้องมาให้ได้ก็เพราะต้องมาเช็กอินกับป้ายไฟกูลิโกะที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สคัญของโอซาก้านี่เองค่ะ หาก็ไม่ยากนะ เพราะตั้งอยู่แถวๆโซนกลางๆแถมคนยังเยอะมากเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปจุดนี้เหมือนมาไม่ถึงเลยล่ะ

3. ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะ (Sumiyoshi Taisha) ศาลเจ้าสุมิโยชิ ไทชะที่มีเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมการสร้างที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แถมยังเป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะคะโดยถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรตที่ 3 มี ซึ่งสถาปัตยกรรมที่ว่าแตกต่างนั้นเค้ามีชื่อเรียกว่า “สุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-zukuri)” ซึ่งไม่เหมือนกันรูปแบบศาลเจ้าของที่อื่นๆในเอเชีย ดังนั้นถ้ามาก็เหมือนเราได้สัมผัสถึงสิ่งหนึ่งที่ยากจะหาได้ไม่ใช่เฉพาะแค่ญี่ปุ่นแต่เป็นระดับเอเชียเชียว

Mt Fuji (Shimizu), Japan

Shimizu-ku เป็นทิศตะวันออกสุดของเมืองชิซูโอกะในจังหวัดชิซุโอกะประเทศญี่ปุ่น สถานที่เที่ยวไม่ควรพลาด

1. ทะเลสาบอาชิ  เดินเล่นริมทะเลสาบแห่งนี้ หรือล่องเรือข้ามทะเลสาบบนเรือโจรสลัด และถ้าโชคดี คุณอาจมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาฟุจิโดดเด่นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจน ทะเลสาบอะชิ (อะชิโนะโคะ) เป็นทะเลสาบที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้ โดยอยู่ภายในแนวภูเขาฮะโกะเนะ ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ภายในปล่องภูเขาไฟของภูเขาฮะโกะเนะหลังจากที่ภูเขาไฟระเบิดเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว ในปัจจุบัน ทะเลสาบเป็นสถานที่อันบริสุทธิ์ที่เรียงรายไปด้วยหมู่บ้านขนาดเล็ก รีสอร์ตริมทะเลสาบ เส้นทางเดินอันงดงาม และป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์

2. สวนสนุกออนเซ็นขนาดมหึมาในฮาโกเนะที่ท่านสามารถเล่นสนุกได้ทั้งวัน นอกเหนือจากบ่อออนเซ็นกลางแจ้ง บ่อไม้ฮิโนคิแล้ว ยังมีบ่อน้ำแร่อีกมกมายให้ท่านได้เลือกสนุกสนาน ไม่ว่าจะบ่อชาเขียว หรือบ่อไวน์ หากเป็นโซนที่ต้องสวมชุดว่ายน้ำลงแช่ ท่านก็จะสามารถลงแช่พร้อมกันได้ทั้งชายและหญิง

Tokyo (Yokohama), Japan

เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) เป็นเมืองหลักของจังหวัดคานากาว่า (Kanagawa) โดยอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียว (Tokyo) ในภูมิภาค (Kanto) มาประมาณ 30 กิโลเมตร จึงเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมสำหรับคนที่อยากท่องเที่ยวรอบโตเกียว สำหรับเมืองโยโกฮาม่านั้น เรียกได้ว่าเป็นเมืองท่าที่มีความทันสมัยและมีวิวที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืนที่จะมีการเปิดไฟหลากสีสัน

1. สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของใครหลายคน เมื่อได้มาเยือนเมืองท่าอย่างโยโกฮาม่าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต หรือจะมาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวกับ “สวนสนุกโยโกฮาม่า คอสโม่เวิล์ด (Yokohama Cosmo World)” เป็นสวนสนุกสุดมันส์ที่ตั้งอยู่ในย่านมินาโตะมิไร (Minato Mirai)

2. แหล่งช็อปปิ้งซึ่งตั้งอยู่ริมอ่าวสุดชิคที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ควรพลาด! หากได้มาเยือนเมืองโยโกฮาม่า นั่นคือ “อาคารโกดังอิฐแดง (Yokohama Red Brick Warehouses)” หรือที่หลายคนเรียกว่า “Akarenga Soko” เป็นอาคาร 2 หลังที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป สร้างด้วยอิฐแดง ในอดีตอาคารเหล่านี้ถูกใช้เป็นโกดังสำหรับจัดเก็บสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าของศุลกากร ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงและพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของเมืองนี้ไปแล้ว

3. เมืองแห่งสีสันอย่างโยโกฮาม่ายังมีจุดชมวิวมุมสูงอีกแห่งซึ่งเราสามารถขึ้นไปชื่นชมความสวยงามของเมืองนี้ได้อย่างกว้างขวางสุดลูกหูลูกตากับ “โยโกฮาม่ามารีน ทาวเวอร์ (Yokohama Marine Tower)” ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของที่นี่เลยละโยโกฮาม่ามารีน ทาวเวอร์เป็นหอคอยสังเกตการณ์ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1961 โดยมีความสูงอยู่ที่ 106 เมตร มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระครบ 100 ปีด้านการเปิดใช้งานท่าเทียบเรือของเมืองโยโกฮาม่า จากจุดชมวิวด้านบนสามารถมองเห็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอย่าง อาคารโกดังอิฐแดง (Yokohama Red Brick Warehouses), ชิงช้ายักษ์ (Cosmo Clock 21), ท่าเรือโอซันบาชิ (Osanbashi) และวิวอ่าวโยโกฮาม่าได้แบบพาโนราม่ากันเลย

Copyright © 2022 Prompt Cruise All rights reserved.
Loading...
ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)